
หลายคนคงสงสัยว่าทําไมในงานแต่งงานจึงต้องมี การแจกของชําร่วย เพราะ ของชําร่วย นั้นถือเป็นสิ่งแทนคําขอบคณที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวมอบให้กับแขกที่มาร่วมงานโดยมีความเชื่อเรื่องที่มาของการแจกของชําร่วยหลายอย่างด้วยกันค่ะ...บ้างก็ว่า...การแจกของชําร่วยงานแต่งงานเริ่มมาจากชนชั้นสงในแถบทวีปยโรปที่เรียกว่า“Bonboniere” ซึ่งเป็นภาษาอิตาเลี่ยนที่แปลว่า กล่องใส่ของชิ้นเล็ก ที่ทํามาจากเครื่องลายคราม, คริสตัล หรือหินที่มีค่าโดยภายในจะบรรจน้ำตาล เอาไว้ซึ่งในสมัยก่อน น้ำตาลถือว่าเป็นของมีค่าที่มีราคาแพงและไม่ใช่จะมีกันได้ง่ายๆ แต่เมื่อราคาน้ำตาลตกลง การแจกน้ำตาลถือเป็นเรื่องปกติมากขึ้น การแจกขนมหวานจึงมาแทนการให้น้ำตาลมากขึ้น โดยเฉพาะ เมล็ดอัลมอนด์เคลือบน้ำตาลและช็อคโกแลตค่ะ
...บ้างก็ว่า...
การแจกของชําร่วยงานแต่งงานเริ่มมาจาก ประเทศอังกฤษ เมื่อค่บ่าวสาวแจก เชือกหรือริบบิ้นที่ผกเป็นเงื่อนเอาไว้ให้แขกที่มาร่วมงาน เพื่อเป็นสิ่งแทนใจถึง สายใยของค่บ่าวสาวที่ผกกันเอาไว้ การแจกของชําร่วยไม่ใช่มีแค่ในเมืองไทยนะคะ วัฒนธรรมของชาติตะวันตกอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา หรือ ในทวีปยโรป อย่างประเทศอังกฤษ อิตาลี รัสเซีย แม้กระทั่งประเทศจีนหรืออินเดียเองของชําร่วยงานแต่งงานจึงถือเป็นสิ่งสําคัญที่ขาดไม่ได้เลย
ของชําร่วยที่จะแจกในงานแต่งงานควรเป็นอะไรนั้น ขึ้นอย่กับหลายๆปัจจัยค่ะ อาทิ งบประมาณ จํานวนแขก อายการใช้งานของของชําร่วย หรือ แม้กระทั่งเวลาและวิธีการในการหาของหรือทําของชําร่วยขึ้นมา ค่บ่าวสาวบางค่ออกแบบของชําร่วยงานแต่งเอง บางค่สะดวกที่จะซื้อกับทางร้านค้าที่เป็นของชําร่วยสําเร็จรปมาแล้ว หรืออาจจะเป็นงานสั่งทําที่ต้องใช้เวลาในการประกอบชิ้นงาน ทั้งนี้ต้องดถึงความเหมาะสมของการทําของชําร่วยด้วยค่ะ
ของชําร่วยบางประเภททางร้านก็มีเก็บสต๊อคไว้รอทําป้ายชื่อก็สามารถรับกลับบ้านได้เลย หรือ ของชําร่วยบางชิ้นจําเป็นต้องใช้เวลาในการผลิตและการประกอบชิ้นงานบางทีอาจจะต้องใช้เวลาถึง 3-4 อาทิตย์ ถ้าเป็นช่วงเดือนตลาคมถึงเดือนมีนาคม
ลกค้าควรมีระยะเวลาในการเตรียมของชําร่วยถึง 2 เดือนค่ะ
---------------------------------------
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Party_favor
http://weddings.lovetoknow.com/wiki/History_of_Wedding_Favors